KruTono
ผลการพัฒนางานตามข้อตกลง
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ประจำปีงบประมาณ 2568
(ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2567 - 30 กันยายน 2568)
ตำแหน่ง ครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ)
โรงเรียนเพ็ญพิทยาคม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี
ข้อมูลผู้รับการประเมิน
- ชื่อ - สกุล : นายอภิชัย สุขโนนจารย์
- คุณวุฒิ : ปริญญาโท หลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต
- วิชาเอก : เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
- ตำแหน่ง : ครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ)
- กลุ่มสาระการเรียนรู้ : วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- โรงเรียน : เพ็ญพิทยาคม
- สังกัด : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี
ภาระงาน
ประจำปีงบประมาณ 2568
ชั่วโมงสอนตามตารางสอน 2/2567
ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 14 ชั่วโมง 10 นาที ต่อสัปดาห์
ชั่วโมงสอนตามตารางสอน 1/2568
ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 14 ชั่วโมง 10 นาที ต่อสัปดาห์
งานส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนรู้
จำนวน 11 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การจัดทำสื่อการเรียนการสอน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การมีส่วนร่วมชุมชนแห่งการเรียนรู้ SLC จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 9 ชั่วโมง 40 นาที/สัปดาห์
- กลุ่มงานบริหารทั่วไป จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มงานกิจการนักเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- เวรประจำวัน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมหน้าเสาธง โฮมรูม จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที/สัปดาห์
- คณะทำงานตามงานต่างๆที่ได้รับมอบหมาย จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
สรุปรวมภาระงาน
ต่อสัปดาห์
องค์ประกอบที่ 1 : การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง ตำแหน่งครู(ยังไม่มีวิทยฐานะ)
ด้านที่ 1 ด้านการจัดการเรียนรู้
-
1. สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร
-
2. การออกแบบการจัดการเรียนรู้
-
3. จัดกิจกรรมการเรียนรู้
-
4. สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้
-
5. วัดและประเมินผลการเรียนรู้
-
6. ศึกษาวิเคราะห์ สังเคราะห์และรือวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้
-
7. จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
-
8. อบรมบ่มนิสัยให้ผู้เรียน มีคุณธรรม จริยธรรม


องค์ประกอบที่ 1 : การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ด้านที่ 2 ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้
องค์ประกอบที่ 1 : การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ด้านที่ 3 ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ
องค์ประกอบที่ 2
การประเมินการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา
องค์ประกอบที่ 3
การประเมินการปฏิบัติตนในการรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
แบบบันทึกข้อตกลง PA
แบบบันทึกข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
ประเด็นท้าทาย
ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ปรับประยุกต์ การจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) เรื่อง การผลิตสื่อมัลติมีเดียด้วยแอปแคนวาและเครื่องมือ AI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
วิธีการดำเนินการให้บรรลุผลสามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
2.1 การสร้างและตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ
1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) เรื่อง การผลิตสื่อมัลติมีเดียด้วยแอปแคนวาและเครื่องมือ AI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 แผน ผู้วิจัยดำเนินการสร้างและหาคุณภาพ ดังนี้
1.1) ศึกษาหลักสูตรและศึกษาคู่มือการเขียนแผนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
1.2) ศึกษาเทคนิควิธีการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้จากคู่มือการจัดการเรียนรู้
1.3) เขียนแผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 8 แผน โดยแต่ละแผนจะประกอบด้วยสาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ สื่อและแหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล กิจกรรมข้อเสนอแนะ และบันทึกหลังการสอน
1.4) นำแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) เรื่อง การผลิตสื่อมัลติมีเดียด้วยแอปแคนวาและเครื่องมือ AI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ที่สร้างขึ้นเสนอต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของสาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้สื่อและแหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล กิจกรรมข้อเสนอแนะและบันทึกหลังการสอน
1.5) นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่ปรับปรุงและแก้ไขข้อบกพร่องแล้ว เสนอผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งพร้อมแบบประเมินแผนกการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) เรื่อง การผลิตสื่อมัลติมีเดียด้วยแอปแคนวาและเครื่องมือ AI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยเกณฑ์การประเมิน มาตราส่วนประมาณค่าของ บุญชมศรีสะอาด (2553: 103)
ค่าเฉลี่ย 4.51 – 5.00 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก
ค่าเฉลี่ย 3.51 – 4.50 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับดี
ค่าเฉลี่ย 2.51 – 3.50 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง
ค่าเฉลี่ย 1.51 – 2.50 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับพอใช้
ค่าเฉลี่ย 1.00 – 1.50 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับต้องปรับปรุง
1.6) นำแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) เรื่อง การผลิตสื่อมัลติมีเดียด้วยแอปแคนวาและเครื่องมือ AI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญแล้วว่ามีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถนำไปใช้ได้ ทำการพิมพ์แผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อนำไปใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่างต่อไป
2) แบบวัดความสามารถในการสร้างสื่อมัลติมีเดีย เป็นแบบทดสอบภาคปฏิบัติ จำนวน 1 ข้อ ผู้วิจัยดำเนินการสร้างและหาคุณภาพ ดังนี้
2.1) ศึกษาหลักสูตรแกนกลางและศึกษาหลักสูตรสถานศึกษา รายวิชาคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
2.2) ศึกษาขั้นตอนการสร้าง การหาคุณภาพ และวิธีการตรวจให้คะแนนแบบวัดความสามารถ และสร้างตารางวิเคราะห์งานหรือกิจกรรมที่เหมาะสมในการสร้างแบบวัดความสามารถ
2.3) สร้างแบบวัดความสามารถและเกณฑ์การให้คะแนนตามตารางวิเคราะห์งานผู้วิจัยสร้างแบบวัดความสามารถโดยกำหนดงานให้นักเรียนปฏิบัติ จำนวน 1 ข้อ โดยคลอบคลุม 5 ประเด็น คือ 1) ความคิดสร้างสรรค์ 2) คุณภาพของเนื้อหา 3) การใช้เทคนิคมัลติมีเดีย 4) ความถูกต้องของข้อมูล และ 5) การนำเสนอ นักเรียนต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ตั้งไว้ในแบบวัดความสามารถ และผู้วิจัยได้สร้างเกณฑ์ประเมินการให้คะแนน (Rubric score) มี 4 ระดับ คือ 1 หมายถึง ปรับปรุง 2 หมายถึง พอใช้ 3 หมายถึง ดี และ 4 หมายถึง ดีมาก
2.4) นำแบบวัดความสามารถและเกณฑ์การให้คะแนนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาและเกณฑ์การให้คะแนน โดยใช้สูตร IOC
2.5) ปรับปรุงแบบวัดความสามารถตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ
2.6) นำแบบวัดความสามารถในการสร้างสื่อมัลติมีเดียของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เพื่อนำไปใช้ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่างต่อไป
2.2 การเก็บรวบรวมข้อมูล
1) ทำการทดลอง โดยให้นักเรียนกลุ่มตัวอย่างเรียนจากแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) เรื่อง การผลิตสื่อมัลติมีเดียด้วยแอปแคนวาและเครื่องมือ AI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 แผน
2) ให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบวัดความสามารถในการสร้างสื่อมัลติมีเดีย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3) ตรวจผลความสามารถในการสร้างสื่อมัลติมีเดีย จากนั้นนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยดำเนินการทดลองตามรูปแบบ One Shot Case Study คือการทดลองเพียงกลุ่มเดียว โดยวัดผลเฉพาะหลังการทดลองครั้งเดียว
O ————–> X
รูปแบบวิจัยแบบ One Shot Case Study
สัญลักษณ์ที่สามารถอธิบายได้ดังนี้
X แทน การจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies)
O แทน การประเมินผลความสามารถในการสร้างสื่อมัลติมีเดีย
2.3 การวิเคราะห์ข้อมูล
1) นำผลการประเมินคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ของผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์ โดยเกณฑ์การประเมินมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ แล้วสรุปผล
2) นำคะแนนความสามารถในการสร้างสื่อมัลติมีเดียมาวิเคราะห์เพื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 70 โดยใช้สถิติ t-test แบบกลุ่มเดียวเปรียบเทียบกับเกณฑ์ (One Samples t-test)
1. เชิงปริมาณ
1.1 แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) เรื่อง การผลิตสื่อมัลติมีเดียด้วยแอปแคนวาและเครื่องมือ AI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีคุณภาพไม่ต่ำกว่าระดับดี
1.2 ความสามารถในการสร้างสื่อมัลติมีเดียของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70
2. เชิงคุณภาพ
2.1 แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) เรื่อง การผลิตสื่อมัลติมีเดียด้วยแอปแคนวาและเครื่องมือ AI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีคุณภาพอยู่ในระดับดี
2.2 ความสามารถในการสร้างสื่อมัลติมีเดียของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) เป็นไปตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้
- คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) เรื่อง การผลิตสื่อมัลติมีเดียด้วยแอปแคนวาและเครื่องมือ AI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเฉลี่ย 4.42 หมายความว่า มีคุณภาพอยู่ในระดับดี
- ความสามารถในการสร้างสื่อมัลติมีเดียของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ (Davies) เรื่อง การผลิตสื่อมัลติมีเดียด้วยแอปแคนวาและเครื่องมือ AI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเฉลี่ยของความสามารถในการสร้างสื่อมัลติมีเดียเท่ากับ 15.37 คิดเป็นร้อยละ 76.85 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.57)
















































